เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและการศึกษาทั่วไปเกี่ยวกับสายพันธุ์โพรไบโอติกเท่านั้น
มีชีวิต
ขณะที่ทาน
ส่งผลดีต่อสุขภาพ
เมื่อรับประทาน
ด้วยปริมาณที่เหมาะสม
โดยอ้างอิงจากงานวิจัย
อาหาร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิด มีเชื้อแบคทีเรียที่มีชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกชนิดที่เป็นโพรไบโอติก มีแบคทีเรียบางสายพันธุ์ที่มีงานวิจัย – พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าส่งผลดีต่อร่างกายเท่านั้น ถึงจะเรียกว่าเป็นโพรไบโอติก
แบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะที่เป็นที่
รู้จักกันดี คือ
Lactobacillus rhamnosus, LGG™
LGG™ by Chr. Hansen
สังเกตได้ง่าย ผ่าน
โลโก้ และเครื่องหมายทางการค้า
สิ่งที่ส่งผลต่อ
สภาวะสมดุล?
สภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้แตกต่างจากใน
อดีตมาก มีปัจจัยหลากหลายที่อาจส่งผลกระทบต่อ
ความสมดุลของเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย
อดีตมาก มีปัจจัยหลากหลายที่อาจส่งผลกระทบต่อ
ความสมดุลของเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย
รู้หรือไม่ มากกว่า 70% ของเซลล์ภูมิคุ้มกันนั้อยู่ใน
ลำไส้ของเรา?
ด้วยเหตุนี้ การมีสุขภาพลำไส้ที่ดี
จึงอาจสัมพันธ์กับการมีสุขภาพที่ดี
เมื่อร่างกายมีแบคทีเรียในลำไส้ที่สมดุล แบคทีเรีย "ดี" จะช่วย
ควบคุมปริมาณของแบคทีเรีย"ไม่ดี" ลักษณะเช่นนี้ เราเรียกว่า
ภาวะสมดุลในร่างกาย
เราจะช่วยให้ลำไส้มีความสมดุลได้อย่างไร?
การทานอาหารที่มีประโยชน์มีส่วนสำคัญมากในการสร้างความสมดุล
บทบาทของจุลินทรีย์ในลำไส้ คือ
- ช่วยให้ลำไส้มีประสิทธิภาพในการย่อยอาหารอย่างเหมาะสม
- มีส่วนสร้างวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน B12 และ K
- ช่วยในการย่อยสารอาหารบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้
- ช่วยในการทำลายสารอาหารที่เป็นพิษบางชนิด หรือป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และรักษาสุขภาพโดยรวม
การทานโพรไบโอติกเป็นประจำอาจช่วยสนับสนับสนุนการทำงานของ
จุลินทรีย์ในลำไส้ และความสมดุลในร่างกาย
โพรไบโอติกLGG™ อยู่ในร่างกายได้นาน
เนื่องจากโพรไบโอติก LGG™ มีคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่า pili (พิไล) อยู่ที่ผนังเซลล์ ที่ช่วยให้เกาะผนังของลำใส้ ไม่ให้ LGG™ หลุดลอยไปกับระบบทางเดินอาหาร อีกทั้งยังทนต่อน้ำย่อยและน้ำดีในระบบทางเดินอาหารด้วย
pili คือส่วนหนึ่งของโพรไบโอติก LGG™
-
มีลักษณะคล้ายกับเส้นผม อยู่ที่ผนังเซลของ LGG™
-
ช่วยในการยึดเกาะกับผนังของระบบทางเดินอาหาร
ของเรา ทำให้ไม่หลุดลอยไปกับระบบทางเดินอาหาร
มีรายงานการวิจัย
ที่ผ่านการรับรองมากกว่า
1,200
ฉบับ
มาตรฐาน
QPS/GRAS
ในยุโรป และอเมริกา
มีการศึกษาทางคลีนิคมากกว่า
250
ฉบับ
มีการใช้ตั้งแต่
ปี ค.ศ. 1990
เพราะ
70% ของ
ภูมิคุ้มกันอยู่ที่ลำไส้
ร่างกายจึงควรได้
รับจุลินทรีย์
ที่ดีต่อสุขภาพทุกวัน
โพรไบโอติก LGG™ จาก Chr. Hansen นั้น ถึงแม้ว่าจะสามารถ
คงทนอยู่ในร่างกายได้ยาวนาน แต่ควรที่จะรับประทานอย่าง
สม่ำเสมอทุกวัน เพื่อรักษาสมดุลของโพรไบโอติกในร่างกาย
มีงานศึกษาหลายชิ้นรับรองว่า การทานโพรไบโอติกใน
ระยะยาวนั้น นอกจากปลอดภัยแล้ว
ยังได้รับคุณประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร
หลายด้านอีกด้วย
การศึกษาทางคลีนิกและเอกสารวิจัย ทั่วโลกหลายฉบับ พบว่า
LGG™ จาก Chr. Hansen
มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน
แสดงให้เห็นว่า
LGG™ by Chr. Hansen
เป็นโพรไบโอติ กที่แท้จริง
การศึกษาทาง
คลีนิกเกี่ยวกับ LGG™ ได้แก่
- ระบบภูมิคุ้มกัน3 8 10
- สุขภาพในช่องปาก9
- ภาวะขับถ่ายเหลวและเป็นน้ำ1 2 4 6 7
- ภาวะขับถ่ายเหลวในกลุ่มผู้เดินทาง5
Sources
1 Arvola T, et al.Pediatrics. 1999;104(5):e64. (PubMed).
2 Vanderhoof JA, et al. The Journal of Pediatrics. 1999;135(5):564-8. (PubMed)
3 Hojsak I, et al.Pediatrics. 2010;125(5):e1171-7. (PubMed)
4 Isolauri E, et al. Pediatrics. 1991;88(1):90-7. (PubMed)
5 Hilton E, et al. J Travel Med. 1997;4(1):41-3. (PubMed)
6 Sindhu KNC, et al.Infectious Diseases Society of America. 2014;58(8):1107-15. (PubMed)
7 Aggarwal S, et al.Indian J Med Res. 2014;139(3):379-85. (PubMed)
8 Hojsak I, et al. Clin Nutr. 2010;29(3):312-6. (PubMed)
9 Nase L, et al.Caries Res. 2001;35(6):412-20. (PubMed)
10 Davidson LE, et al. Eur J Clin Nutr. 2011;65(4):501-7. (PubMed).
Chr. Hansen – ผู้เชี่ยวชาญด้านโพรไบโอติก
Chr. Hansen คือบริษัทชั้นนำด้านชีววิทยาศาสตร์ระดับโลก
สำนักงานใหญ่ อยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ค ก่อตั้งมา
มากกว่า 147 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโพรไบโอติก และมีธนาคาร
สายพันธ์ุแบคทีเรียจำนวนมากที่สุดในโลก ในทุกๆ วัน มากกว่าหนึ่ง
พันล้านคนบนโลก บริโภคผลิตภันฑ์ซึ่งมีส่วนประกอบที่พัฒนาโดย
Chr. Hansen
ที่อยู่
319 อาคารจามจุรีสแควร์ ชั้น 24 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย
อีเมล
[email protected]
เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและการศึกษาทั่วไปเกี่ยวกับสายพันธุ์โพรไบโอติกเท่านั้น เนื้อหานี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัย รักษา หรือแทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ หากมีคำถามทางการแพทย์ ปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพของท่านเสมอ